7 พฤติกรรมที่ทำร้ายฟัน
28 กรกฏาคม 2019
7 พฤติกรรมเสี่ยงทำร้ายฟัน !!!
การดูแลฟันนั้นไม่ได้มีแค่การทำความสะอาดฟัน แต่เราต้องระวังพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันของเราที่อาจจะเป็นตัวทำลายสุขภาพฟันของเราได้ บางอย่างเราอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติหรือเคยทำจนชินตัว ซึ่งจริง ๆ แล้วพฤติกรรมเหล่านั้นต่างส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อฟันของเรา วันนี้เซนิโทนี่จะมาให้ความรู้ว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้าง มาเริ่มกันเลย
1. การดื่มน้ำอัดลม
การดื่มน้ำอัดลมสามารถทำให้ฟันผุและฟันสึกกร่อนได้ เพราะกรดในน้ำอัดลมจะไปกัดกร่อนฟัน และน้ำตาลที่ตกค้างจะกลายเป็นอาหารของแบคทีเรียภายในปาก ทำให้เกิดการจับตัวของแบคทีเรียกับน้ำตาลกลายเป็นคราบหินปูน
2. ใช้ฟันอย่างผิดวิธี
หลาย ๆ คนใช้ฟันกัดถุงให้ขาด หรือเปิดฝาขวดเครื่องดื่มด้วยฟัน หรือการใช้ฟันกัดป้ายเสื้อ พฤติกรรมดังกล่าวอาจทำให้ฟันบิ่นหรือแตกหักได้
3. นอนกัดฟัน
การนอนกัดฟันส่งผลเสียหลายอย่างต่อตัวฟัน ผลเสียโดยตรงต่อฟันคือ การสึกกร่อนในด้านบดเคี้ยวและจะค่อย ๆ ส่งผลกระทบต่อชั้นเนื้อฟันจนกระทั่งไปถึงชั้นเนื้อฟัน และยังเกิดอันตรายต่อกล้ามเนื้อใบหน้าและข้อต่อขากรรไกรอีกด้วย
4. ใช้ไม้จิ้มฟัน
การใช้ไม้จิ้มฟันบ่อย ๆทำให้เกิดฟันห่าง เนื่องความเรียวเล็กที่ปลายและใหญ่ที่โคน เมื่อเข้าไปในซอกฟันมาก ๆ ทำให้เกิดช่องว่างที่ใหญ่ขึ้นและมีผลทำให้เศษอาหารติดซอกฟันง่ายขึ้น
5. กัดเล็บ
การกัดฟันทำให้เกิดความเสียหายต่อเคลือบฟัน ในบางครั้งอาจทำให้ฟันเคลื่อนได้ และเป็นการนำเชื้อโรคเข้าสู่ช่องปากอีกด้วย
6. ชอบเคี้ยวน้ำแข็ง
การใช้ฟันเคี้ยวน้ำแข็งมาก ๆ อาจทำให้เกิดฟันร้าว นำไปสู่การเสียวฟันและปวดฟัน และอาจถึงขั้นทำให้ฟันสึกเร็วรวมถึงฟันแตกหักได้
7. การแปรงฟันหลังทานอาหารโดยทันที
ไม่ควรแปรงฟันโดยทันทีหลังจากรับประทานอาหาร โดยเฉพาะเมื่อทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีกรดสูง ความเป็นกรดของอาหารจะทำให้เคลือบฟันของเราอ่อนลง เมื่อแปรงฟันก็เท่ากับเปิดโอกาสให้ฟันสึกง่ายขึ้น ดังนั้นควรแปรงฟันหลังมื้ออาหารประมาณ 30–60 นาที
พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแต่เป็นภัยเงียบต่อฟันของคุณ ถึงเวลาแล้วที่คุณควรหันมาใส่ใจสุขภาพฟันอย่างจริงจัง ด้วยการทะนุถนอม
สุขภาพฟัน แปรงฟันอย่างถูกวิธี และพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุกๆ 6 เดือน